บ้านนาฏศิลป์ไทยในรายการ Style Thai ช่อง NOW 26 ​

https://www.youtube.com/watch?v=EmLR_waKm4A

น้องเฟรม : ถ้าคนแบบไม่เคย อย่างพี่ยศไม่น่าจะเคยรำมาก่อนใช่ไหม

พี่สมยศ : เคย นานมาแล้วครับ

น้องเฟรม : แล้วแบบมือแข็งๆอย่างนี้

ครูเปิ้ล : เดี๋ยวเรามีพื้นฐานการดัดตัวให้ค่ะ

พี่สมยศ : ไม่รู้อ่าน่ากลัวเลย ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ

น้องเฟรม : ทำไมอ่า

พี่สมยศ :ก็ดูตัวดิ แข็งไม่เท่าไหร่นะ ตัวกลมด้วยนี่ดิ

น้องเฟรม : ครู ตัวขนาดนี้ สามารถดัดคนแบบนี้ได้ไหมคะ

ครูเปิ้ล : เดี๋ยวก็รู้กันนะคะ

น้องเฟรม : เดี๋ยวก็รู้ เดี๋ยวก็รู้

น้องเฟรม : และสำหรับโรงเรียนที่นี่เปิดนานกี่ปีแล้วคะ

ครูเปิ้ล : ประมาณห้าหกปีแล้วค่ะ

น้องเฟรม :ส่วนมากเด็กนักเรียนที่มาเรียนจะเป็นอายุกลุ่มไหนคะ

ครูเปิ้ล : ตั้งแต่ 4 ขวบขึ้นไปค่ะ แล้วก็เหมือนแบบ 4 ขวบขึ้นไปจนถึงแล้วแต่ความชอบเลย คนหกสิบก็มาเรียนนะคะ

น้องเฟรม : เรียนเพื่ออะไรคะ

ครูเปิ้ล : อันแรกเลยเขาบอกว่ามาเติมเต็มในสิ่งที่เขาไม่เคยทำ

น้องเฟรม : อ๋อ เหมือนตอนเด็กเคยใฝ่ฝีนว่าอยากจะเรียนแต่ยังไม่มีเวลา พอโตมาเกษียณแล้วก็ค่อยมาเรียน

ครูเปิ้ล : ใช่ค่ะ บางคนอยากลองว่าเป็นการออกกำลังกาย

น้องเฟรม : อ๋อ เป็นการออกกำลังกายได้ด้วย แล้วสำหรับเด็กๆหละคะ เค้ามีความคิดหรือว่าความชื่นชอบอย่างไร

ครูเปิ้ล : ส่วนใหญ่เด็กมาเรียนนี่เพื่อฝึกสมาธิ แล้วก็กล้าแสดงออกด้วย เพราะอย่างครูเปิ้ลก็จะมีเวทีให้น้องๆได้แสดงออกจริง

พี่สมยศ : ไอ้อันหลังสมาธินี่ผมก็โอเคนะฮะ แต่เรื่องการแสดงออกนี่ผมเป็นคนที่แบบไม่กล้าแสดงออกมาเลยครับ จริง ผมเป็นคนขี้อายมากเลยครับเฟรม

น้องเฟรม :อันนี้ไม่กล้าแสดงออกแล้วหรือคะ

พี่สมยศ : จริงๆ ผมเป็นคนขี้อายมากเลยฮะ

น้องเฟรม : เป็นเด็กหลังห้องใช่ไหม

พี่สมยศ : เป็นเด็กหลังห้องเลย มุมมืดเลยแหละ

น้องเฟรม : เดี๋ยวจะไปถามแม่นะพี่ยศ เพราะว่าเมื่อกี้ที่เดินเข้ามาก็เห็นมีรูปน้องๆเต็มเลย ที่ไปงานประกวดต่างๆ อันนี้เรามีการส่งน้องๆไปหรือว่าน้องๆไปเอง

ครูเปิ้ล : ก็มีทั้งสองอย่างค่ะ มันก็จะมีแบบเวทีให้น้องๆโชว์นะคะ ก็ตามห้างอ่าค่ะ แล้วก็ตามทีวีทั่วไป แล้วก็แบบเด็กบางคนก็แบบชอบเดินสายด้วย เอาตรงนี้อ่าค่ะ เอารำไทยเราไปใช้ แล้วก็จะมีกลุ่มอีกกลุ่มนึงคือเหมือนแบบเอาไว้ใช้สอบ

น้องเฟรม : มันต้องมีเรียนรำไทย

พี่สมยศ : ก็อาจจะแบบเข้ามหาวิทยาลัยนาฏศิลป์หรือเรียนพิเศษ

น้องเฟรม : สามารถสอบเข้าโรงเรียนได้ด้วยและก็ในสมัยนี้ค่ะครูเปิ้ล การประกวดสวยงามอะไรแบบนี้ตามเวที เค้าต้องมีการโชว์ความสามารถพิเศษและความเป็นไทยนี่แหละ ที่เด็กๆหลายๆคนอาจจะมองข้าม แต่ว่าก็ยังมีเด็กบางกลุ่มนี่ไงพี่ยศมาสนใจ แล้วก็ถือว่าเรียกเสียงจากกรรมการได้ คะแนนจากกรรมการได้ หนูก็อยากไปประกวดบ้าง หนูเลยจะมาเรียนรำไทย

พี่สมยศ : อันที่สำคัญเลยนะมาเรียนที่นี่แล้วนะ ไม่ใช่เรียนแล้วก็เลิกกัน จบกัน แต่ยังมีเปิดโอกาสให้ไปโชว์ ให้ไปแสดงความกล้า นั่นไง ฮึกเหิมเลยอย่างงี้

น้องเฟรม : ไม่ได้ออกรบค่ะ ใจเย็นนะ เราอยากลองแล้วอ่าพี่ยศ

พี่สมยศ : ยังไงดี ใช่เลยครับ ผมอยากจะเข้าสักคลาสนึง

น้องเฟรม : ก่อนอื่นเลยต้องเตรียมตัวยังไงคะก่อนที่จะเริ่มเรียน

ครูเปิ้ล : ตอนแรกใช่ไหมคะ ต้องเคลียร์ก่อนเพราะว่าทุกครั้งเหมือนกับนักเรียนมักจะถามว่าเรียนอันนี้เพื่ออะไร ทุกคนต้องมีเป้าหมายของตัวเองค่ะว่าเรียนเพื่ออะไร เรียนเพื่ออะไรคะ

น้องเฟรม : หนูอยากเอาไว้เพื่อเป็นความสามารถพิเศษค่ะ

ครูเปิ้ล : เป็นความสามารถพิเศษนะคะ ได้ตรงนั้นแน่นอนค่ะ หนูหละคะ อยากเรียนเพื่ออะไรคะ

พี่สมยศ : ผมอยากเรียนเพื่อจะได้มีความมั่นใจแล้วมีความกล้าแสดงออก ไม่ขี้อายครับ

ครูเปิ้ล : โอเค ตรงทางค่ะ เดี๋ยวครูเปิ้ลมีเวทีให้ได้โชว์ด้วย

น้องเฟรม : สนุกหละงานนี้ แต่ว่าชุดหนูรู้สึกว่ามันจะไม่ค่อยเข้ากับน้องๆ

ครูเปิ้ล : เดี๋ยวครูเปิ้ลจัดเตรียให้นะคะ

น้องเฟรม : มีใช่ไหมคะ

ครูเปิ้ล : มีให้ มีให้

น้องเฟรม : ไปกันเลยดีกว่าค่ะผู้ชม เดี๋ยวขออนุญาตไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมที่จะขี้นไปเรียนกันดีกว่า

พี่สมยศ : ไปกันเลยครับ

ก่อนที่พี่สมยศและน้องเฟรมเค้าจะขึ้นไปร่วมชั้นเรียนกับน้องๆนี่นะครับ ก็ต้องเปลี่ยนชุดให้มันกลมกลืนกันหน่อยคุณผู้ชม

เปลี่ยนจากการใส่เสื้อกับกางเกงยีนส์เป็นการใส่โจงกระเบนแทนนะครับ

ครูเปิ้ล : เชิญค่ะ

น้องเฟรม : ได้ยินเสียงแว่วๆ

พี่สมยศ : นอกจากเรียนรำไทยยังสอนเลขอีกเหรอครับ

น้องเฟรม : ไม่ใช่ เค้าเป็นการนับใช่ไหมคะ

ครูเปิ้ล : เป็นการนับค่ะ เป็นการนับ

น้องเฟรม : อันนี้ถึงห้องคลาสเรียนแล้วใช่้ไหมคะ

ครูเปิ้ล : ถึงแล้วค่ะ

น้องเฟรม : ปกติห้องขนาดนี้เรียนได้กี่้คนคะ

ครูเปิ้ล : จริงๆแล้วครูก็จะรับสักประมาณไม่เกินสิบค่ะ

น้องเฟรม : อ๋อไม่เกินสิบ

ครูเปิ้ล : แต่วันนี้เอามาโชว์เลยเยอะหน่อย

น้องเฟรม : นี่ คุณผู้ชมคะ เราสองคนเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อยแล้ว ทำไมต้องเป็นโจงกระเบนแดงด้วยอ่าคะ

ครูเปิ้ล : อันแรกเลยนะคะ ใส่โจงกระเบนมันจะทำให้เราแบบเคลื่อนไหวร่างกายได้ง่ายขึ้น แล้วก็สีแดงเพราะว่าตั้งแต่แรกเลยเป็นสีแดง ก็ยึดสีแดงกันมา

น้องเฟรม : เออ รู้สึกนะว่ามันแบบสบาย ฉีกขาได้ด้วย มีตั้งแต่ตัวเล็กไปถึงน้องๆแบบสิบกว่า

นี่เขาน่าจะประมาณ 4 ขวบ 4 ขวบเองนะคะ เริ่มมาจากเด็กๆไง

พี่สมยศ : สี่ขวบห้าขวบขอบอกนะ สมัยก่อนนะไม่ใช่รำไทยแบบนี้หรอกพี่ ยิงนกตกปลาอยู่นู่น พี่เป็นเด็กบ้านนอกมาก

น้องเฟรม : บ้านนอกเหมือนกันๆ ลองเลยเนอะ แล้วนี่มีคุณครูอีกหนึ่งท่าน อ๋อ ครูปอ เป็นพี่น้องกันใช่ไหมคะ สอนกันเองในนี้เลยใช่ไหมคะ

ครูเปิ้ล : ใช่ค่ะแล้วมีคุณครูด้วย มีพี่น้องสามคน ครูเปิ้ล ครูปุ้ง ครูปอ ค่ะ

น้องเฟรม : อ๋อ ก็คือเป็นครูสอนนาฏศิลป์ทั้งสามคนเลย

ครูเปิ้ล : ใช่ค่ะสามคนพี่น้อง แล้วก็มีคุณครูท่านอื่นๆด้วย ไป เชิญค่ะ

หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม สิบสี่ สิบห้า สิบหก สิบเจ็ด สิบแปด สิบเก้า ยี่สิบ

น้องเฟรม : ครูปอขา สวัสดีค่ะ

ครูปอ : เด็กๆสวัสดีค่ะด้วยค่ะลูก

น้องเฟรม : สวัสดีค่ะ อยากมาสมัครเรียนด้วยอ่าค่ะ

ครูปอ : ยินดีค่ะ

น้องเฟรม : นี่ครูปุ้มค่ะ ครูปุ้มสวัสดีค่ะ เดี๋ยว เปิ้ล ปอ ปุ้ม นี่สามพี่น้องเลยพี่ยศ สามพี่น้องเลย ใช่ มาคนเดียวได้ไงคะ

สามพี่น้องนี่สุดยอดเลยนะคะ เมื่อสักครู่นี้กำลังทำไรอยู่คะ

ครูปอ : อ๋อ กำลังสอนดัดมือดัดเท้าค่ะ เป็นการเริ่มต้น ใช่ค่ะ ทุกครั้งก่อนที่เราจะมีการเรียนรำไทย จะต้องให้เด็กมีการดัดมือดัดเท้าเพื่อเป็นพื้นฐานค่ะ

น้องเฟรม : อ๋อ ฝึกพื้นฐาน

พี่สมยศ : แล้วอย่างถ้าผมนี่จะเรียนมั่ง ก่อนจะดัดมือดัดเท้านี่ ผมดัดนิสัยให้ตัวเองก่อนได้ไหมครับ

น้องเฟรม : เล่นตัวเองตลอดเลยนะ ไม่ต้องแล้ววันนั้นอ่า ดัดไม่น่าทันแล้วพี่ยศ มันแก้ไม่ได้แล้วเนอะ อ๋อ แล้วถ้าหนูสองคนอยากจะมาเริ่ม ต้องเริ่มที่อะไรก่อนคะ

ครูปอ : คือ ดัด ใช่ค่ะ จะเริ่่มก็คือจะต้องมาฝึกดัดมือดัดเท้าก่อน เพื่อที่จะได้มีมือที่อ่อนเวลารำจะได้สวยๆค่ะ แล้วเวลาดัดเท้านี่ เพราะว่าเวลารำไทยก็จะต้องมีการยกเท้า เพราะฉะนั้นเด็กเราจะต้องมีการฝึกก่อน ไม่งั้นเวลาที่เค้ารำ เค้าจะไม่สามารถทรงตัวได้ค่ะ

น้องเฟรม : อ๋อใช่ เมื่อสักครู่นี้เห็นน้องบางคนใกล้ๆสามสิบนี่เริ่มเซแล้วใช่ไหมคะ เห็นครูปุ้มเข้าไปช่วยจับด้วยเมื่อสักครู่นี้

แต่ว่าก่อนที่เราจะเรียนรำเราต้องมีการไหว้ครูหรือว่าอะไรก่อนไหมคะ

ครูปอ : ใช่ค่ะ ก่อนทีเราจะเริ่มทุกครั้ง เราต้องมีกราบฤาษีและพระพิฆเนศก่อน เพราะเป็นเทพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราต้องให้ความเคารพเป็นอันดับแรกค่ะ

น้องเฟรม : เมื่อกี้เราไปกราบกันมาเรียบร้อยแล้วพี่ยศ เราพร้อมที่จะเริ่มเรียนแล้ว น้องคนไหนรำได้เป็นเพลงแล้วมีไหม

เด็กๆ : ระบำเงือกค่ะ

น้องเฟรม : ระบำเงือกเป็นอย่างไรคะ ขอท่อนนึง นี่ ไม่ใช่แค่รำได้อย่างเดียวนะพี่ยศ เสียงน้องดีด้วย

ครูปอ : ต้องร้องเพลงด้วย

น้องเฟรม : สำหรับคนที่รำนี่ก็ต้องร้องเพลงหรือคะ โอ๊ยพี่ยศเราจะรอดไหมนี่

หลังจากพูดคุยกันไปพอสมควรแล้วนะครับ พี่สมยศกับน้องเฟรมก็เกิดอาการหวั่นๆไหวๆ โอะ โอ โอ๊ โนว ไม่ใช่ แต่เอาน่า เพื่อรายการแล้ว เพื่อคุณผู้ชมแล้ว ขอบอกว่าแค่นี้ชิวๆจุงเบย

น้องเฟรม : พี่ยศคะ แต่ก่อนทีเราจะเริ่มเรียน เรามาคุยกันตรงนี้เลยค่ะสามพี่น้องที่สืบทอดศิลปะนาฏศิลป์ของไทย จุดเริ่มต้นของพี่ทั้งสามคนอยู่ดีๆทำไมถึงมารำไทยได้ยังไงอ่าคะ มาเกี่ยวข้องกับศิลปะวัฒนธรรมไทยได้อย่างไร

ครูเปิ้ล : อันแรกเลยก็ขึ้นอยู่กับคุณพ่ออ่่าค่ะ คุณพ่อมีลูกสาวสามคน แล้วมีความตั้งใจว่าถ้าแบบลูกสาวสามคนนี่จะส่งเรียนนาฏศิลป์หมดเลย

น้องเฟรม : ทำไมคุณพ่อถึงมีความคิดแบบนั้นคะ

ครูเปิ้ล : คุณพ่อทำเกี่ยวกับพวกไทยๆอยู่แล้วค่ะ พวกลายไทยอะไรอย่างนี้ค่ะ

น้องเฟรม : ก็คือมีมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ เกี่ยวกับเรื่องของความเป็นไทยก็เลยอยากจะให้ ไม่อยากให้ความเป็นไทยหายไป

ก็เลยเพราะฉะนั้นอยากจะให้สามท่านนี้สืบต่อมา พี่ยศ แต่ว่าสมัยก่อน

พี่สมยศ : สมัยก่อนคำว่าเต้นกินรำกินนะครับ คุณครูทั้งสามคนคิดยังไงกับคำคำนี้ครับ

ครูปอ : เคยมีหลายๆคนพูดแบบนี้เหมือนกันว่า อาชีพการรำไทยเป็นเหมือนเต้นกินรำกิน แต่สำหรับตัวครูปอเอง ครูปอไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะครูปอมองว่าเวลาที่เราได้แบบเรียนด้านรำไทย สิ่งที่เราได้คือ หนึ่ง เราได้ในเรื่องของมารยาท แล้วก็ได้รักษาวัฒนธรรมประเพณีของไทยเอาไว้นะคะ และยังได้ถ่ายทอดความเป็นไทยให้คนอื่น ซึ่งสำหรับครูปอนี่ ครูปอรักในวิชาชีพของนาฏศิลป์ไทยมาก เนื่องจากมันทำให้เราแบบได้เห็นถึงตัวเด็กๆว่าแบบ เวลาที่เด็กๆนี่เขาได้รำบนเวที

เขาได้แสดงออกมาอย่างเต็มที่ แล้วแบบมันทำให้เราแบบเหมือนประทับใจค่ะ ที่เราได้อนุรักษ์สิ่งนี้เอาไว้

น้องเฟรม : ไม่ คือฟังพี่ปอพูดแล้วรู้สึกว่าเราดูตาในตาพี่ปอกระจายออกมาเลย หนูนี่แบบคือรู้สึกว่าออกมาจากจิตใจจริงๆ

พูดแล้วแบบ โอ้โห มาเต็ม

พี่สมยศ : ถ้ามีคนอย่างครูปอหรือว่าครูทั้งสาม ป่านนี้นี่นะเราจะไม่เห็นศิลปะวัฒนธรรม การรำไทย อาจจะสูญหายไปแล้วก็ได้

น้องเฟรม : เพราะว่าการที่จะเรียนรำไทยที่พี่สามท่านบอกว่าต้องเริ่มจากตัวเล็กๆแบบนี้ แล้วที่สำคัญเริ่มตั้งแต่ตอนยังเด็กๆเลยหรือเปล่าคะ

ครูเปิ้ล : อ๋อ ของครูเปิ้ลเองไม่ได้มีโอกาสขนาดเหมือน้องตัวเล็กๆขนาดนี้นะคะ ครูเปิ้ลเหมือนได้สอบเข้าวิทยาลัยตอนครูเปิ้ลอยู่ ม.4 ครูเปิ้ลกับครูปุ้ม ม.4 แล้วครูปอนี่เข้าตอน ม.1 เป็นโรงเรียนที่เกี่ยวกับนาฏศิลป์โดยตรงเลย ใช่ค่ะ แล้วก็ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์

น้องเฟรม : อ๋อ ทั้งสามท่านเลย

ครูปอ : ใช่ค่ะแล้วก็เราได้เรียนจบสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ค่ะ คือวิทยาลัยนาฏศิลป์ที่เปิดแขนงออกมาเป็นปริญญาตรีค่ะ

น้องเฟรม : แล้วทั้งสามท่านเลยเรียนจบทางด้านนี้มา คือตั้งแต่เริ่มแรกที่เข้าเรียนเกี่ยวกับนาฏศิลป์ คือ มีความตั้งใจที่จะเปิดโรงเรียนแบบนี้เลยหรือเปล่าคะในช่วงแรกที่เริ่มเรียน

ครูเปิ้ล : ช่วงแรกเลย ตอนเรียนแรกๆเรายังไม่มีเป้าหมายชัดเจนขนาดนี้ ว่าเราอยากเปิดโรงเรียน แต่เหมือนแบบ ครูเปิ้ลต้องเริ่มก่อน ว่าตอนแรกครูเปิ้ลหนะ เคยเหมือนแบบทำงานประจำช่วงนึง แล้วรู้สึกว่าชีวิตอันนี้มันไม่ใช่ชีวิตที่เราต้องการ

ที่เราจะต้องตื่นต้องเช้าไปทำงาน เราก็มองว่าเหมือนกับ เห้ย เราอ่าจบด้านนี้มาโดยตรง เราครูคิดว่าคนที่คิดจะทำด้านนี้อ่าค่ะ น้อย แล้วเหมือนแบบเอ้ยเรานี่แหละจะเป็นเหมือนแบบที่จะทำให้โรงเรียนเกิดขึ้น เพราะเราสามคนนี่แหละช่วยกันค่ะ

น้องเฟรม : จุดประสงค์เริ่มแรกที่เมื่อกี้ครูเปิ้ลบอก เหมือนรู้สึกว่าอยากจะถ่ายทอดก่อนเริ่มแรก ตอนแรกไม่ได้อยากทำเป็นธุรกิจ แต่ว่าอาชีพมันจะต้องอยู่ได้ แต่ว่าจุดประสงค์หลักๆคืออยากจะถ่ายทอดให้กับเด็กๆ แล้วสำหรับครูปุ้มหละคะ

ตลอดที่เปิดมาตอนนี้ประมาณห้าปีแล้ว พี่ปุ้มคิดว่าเห็นการพัฒนาของน้องๆหรือว่าของโรงเรียนเราที่ทำให้คนรู้จักเพิ่มมากขึ้นไหมคะ

ครูปุ้ม : ก็มากขึ้นนะคะ เพราะว่าดูเหมือนกับเด็กรักที่จะเรียนรำไทยด้วย

น้องเฟรม : เด็กยุคแรกๆที่เราเปิดโรงเรียนกับเด็กสมัยนี้ต่างกันไหมคะ

ครูปุ้ม : ก็ต่างกันนะคะเพราะว่าเด็กสมัยนี้จะติดพวกแท็บเล็ตอะไรอย่างนี้อ่าค่ะ ใช่ แต่พอมาเรียนรำไทยก็จะช่วยในเรื่องของสมาธิมากขึ้น

น้องเฟรม : และสำหรับโรงเรียนบ้านนาฏศิลป์ไทยแบบนี้เรามีการไปโชว์ต่างประเทศบ้างไหมคะ

ครูเปิ้ล : อ๋อ ของเราก็มีนะคะ ล่าสุดเราไปกันที่ประเทศจีนค่ะแล้วก็ไปที่เกาหลีค่ะ

น้องเฟรม : ไปเป็นตัวแทนของประเทศไทยเลยใช่ไหมคะ

ครูเปิ้ล : ใช่ค่ะ พาเด็กๆไปร่วมกิจกรรมค่ะ แล้วถ้าจำไม่ผิดเป็นงานผลไม้ไทยค่ะ

น้องเฟรม : คือเราก็ไปในนามของรัฐบาลของไทยส่งไปเลยใช่ไหมคะ แล้วเค้ามาเห็นเราได้อย่างไรอ่าค่ะ ส่วนใหญ่ก็มีลูกค้าติดต่อมาทางเว็บไซต์ค่ะ ใช่ เว็บไซต์ เฟสบุ๊ค สำคัญ

พี่สมยศ : อย่างที่เราไปต่างประเทศอ่าครับ การตอบรับของชาวต่างชาติที่เราไปโชว์นี่มีฟีดแบ็คกลับมาบ้างไหมครับ

เยอะมากเลยค่ะ

ครูเปิ้ล : คือ ต้องบอกก่อนว่าเราแสดงปุ๊บนะต่างชาติเค้าดูตื่นเต้นมากเลย เค้าดูสนใจมากกับการแสดงของไทยค่ะ แล้วเค้าแบบไม่เคยเห็น

น้องเฟรม : เราใส่ชุดเต็มเลยใช่ไหมคะ

ครูเปิ้ล : เราก็ใส่ชุด ใช่ค่ะ สี่ภาคเลย

น้องเฟรม : อ๋อ ขนของดีไปหมดอย่างนี้ ไม่ตะลึงได้ยังไง มีถึงสี่ภาค

ครูเปิ้ล : เพราะว่าแต่ละภาคการรำก็จะแตกต่างกันค่ะ อย่างภาคเหนือก็จะเนิบๆหน่อย อีสานก็จะโจ๊ะๆหน่อย อีสานก็แบบมันส์ๆเลย ภาคกลางก็จะเป็นจังหวะกลางๆหน่อย และภาคใต้ก็จะเป็นเร็วๆนิดนึง

พี่สมยศ : ภาคใต้ก็จะดุดัน

น้องเฟรม : พูดลักษณะนี้แล้วพี่ยศ เรายังไม่ได้ลงมือกันเลยนะ

พี่สมยศ : นั่นสิ ครั้งแรกเลยนี่ต้องปรับตัว

น้องเฟรม : พี่ยศเอาเท้าเกาะกำแพงไรงี้ ไหวไม๊

พี่สมยศ : ก็น่าจะไหวมั๊งครับ

น้องเฟรม : หุ่นขนาดนี้พอดัดได้ใช่ไหมคะ ต้องถามคุณครูนี่

ครูเปิ้ล : ได้สิ ให้ครูปอสอน เรามีครูตั้งสามท่านนะ ยังไงก็ดัดได้

น้องเฟรม : คนนึงยัน คนนึงดึง คนนึงทำอย่างงี้

พี่สมยศ : ถ้าไม่ไหวยังไง เดี๋ยวโทรตามวินมอไซค์ปากซอยมาช่วยดัน

น้องเฟรม : ไม่ใช่ ไม่เหมือนกัน ไป ได้เวลาแล้วคุณผู้ชม มาเริ่มเรียนกันเลยค่ะ

พี่สมยศ : อ้า เด็กๆ พร้อมไม๊คะ

พร้อมค่ะ

ครูปอ : ตั้งขาสองข้างนะคะ หลังตึง มือซ้อนกันค่ะ บิดมือออก เอามือไว้ด้านในนะคะ สิ่งสำคัญจะต้องหนีบให้ติดมากที่สุด

ดึงมาถึงขา นับหนึ่งถึงสามสิบค่ะ หนึ่ง สอง สาม สี่ ยี่สิบเก้า สามสิบ

น้องเฟรม : อันนี้ได้อะไรอ่าคะครูปอ

ครูปอ : อันนี้ได้เรื่องของแขนค่ะ เพราะว่าเวลารำไทยเราต้องมีแขนที่อ่อน

ประโยชน์ของการเรียนนาฏศิลป์ไทยครับ นอกจากจะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แล้ว ยังฝึกให้เด็กมีสมาธิ ช่วยในเรื่องของบุคลิกและ สำคัญนะครับยังช่วยปลูกฝังความเป็นไทยให้กับน้องๆ ให้ช่วยกันรักและสืบสานความเป็นไทยนี้ต่อไป สุดยอดจริงๆเลยนะครับ

ครูปอ : อ่า เดี๋ยวทุกคนพูดตามนะคะ อำนวยอวยพร อ่อนหวาน เอิง เอิง เอย

พี่สมยศ : โอ๊ย ผมขออนุญาตนั่งขัดสมาธินะครับ

น้องเฟรม : ทำไมอ่า

พี่สมยศ : มันตึงมากเลยครับน้องเฟรม

น้องเฟรม : เห็นไม๊ใครจะไปคิดว่าตัวขนาดนี้จะดัดได้

พี่สมยศ : โหย เมื้อกี้นะติดฝาผนังเลย

น้องเฟรม : ฝีมือของครูสามคน บอกแล้วว่าเทพ ที่ผ่านมาเป็นไง ชอบท่อนไหนมากที่สุด ชอบตอนดัดตัวใช่ไม๊ ก็เห็นร้องเสียงหลงเลยแสดงว่าชอบ

พี่สมยศ : ชอบครับ

น้องเฟรม : มีคนดัดยากแบบนี้มาเรียนบ้างไม๊คะ ดัดตัวแบบนี้อ่าค่ะมีบ้างไหมคะ

ครูปอ : เอาจริงๆค่ะ เรามี มีคนตั้งแต่ห้าสิบมาเรียน

น้องเฟรม : หมายถึงอายุหรือน้ำหนัก

พี่สมยศ : นี่ผมร้อยกว่าเลยนะครับ

น้องเฟรม : โอเค ดูก็รู้ วันนี้ได้ครบถ้วนเลยนะคะ ได้รู้ถึงความเป็นมาของพี่ๆ รู้ถึงจุดประสงค์ วัตถุประสงค์ในการสอนด้วย

แล้วก็ได้มาลองลงมือทำกันด้วย สุดท้ายเลยค่ะ อยากให้พี่ๆทั้งสามท่าน ฝากถึงน้องๆรุ่นใหม่ หรือว่าคุณผู้ชมที่กำลังดูอยู่

หลายๆท่านอาจจะคิดว่าการรำไทยก็เป็นเรื่องใกล้ตัวนะ ก็เห็นอยู่บ่อยๆตามวัดมีรำแก้บน มีการแสดงอยู่เรื่อยๆ แต่ว่า หลายๆคนบอกว่ามันยาก อันนี้พี่อยากจะบอกอะไรกับท่านผู้ชมบ้าง

ครูเปิ้ล : จริงๆรำไทยอ่าค่ะ หลายคนมองว่ามันยากใช่ไหมคะ แต่แล้วจริงๆถ้าเหมือนเราได้ลองสัมผัสจริงๆอ่าค่ะ มันไม่ได้ยากเหมือนที่คิดนะคะ แล้วก็อีกอย่างนึงคือเรามีเทคนิคการสอน ที่ทำให้แบบผู้เรียนไม่ต้องกังวลว่าแบบที่เราทำนี่มันยาก ทำไม่ได้ คุณครูเราจะค่อนข้างเอ็มพาวเวอร์ให้เวลาผู้เรียนมากๆค่ะ เวลาที่ผู้เรียนมีกำลังใจดีเนอะ เอ่อ เค้าอยากจะเรียนอ่าค่ะ นะคะ

น้องเฟรม : ก็จะมีเทคนิคในการสอนด้วย ไม่ได้ยากอย่างที่หลายๆท่านคิดใช่ไหมคะ

ครูปุ้ม : ค่ะ ก็คือลองมาสมัครดูอ่าค่ะ ใช่ค่ะ การเรียนรำไทยก็จะช่วยในเรื่องของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยด้วย แล้วก็จะให้เด็กๆนี่รักเมืองไทยมากขึ้นค่ะ

ครูปอ : ค่ะ สำหรับครูปอนะคะ ครูปอมองว่าปัจจุบันนี้ เรามีทั้งแบบ เด็กสมัยนี้ชอบเดินแบบ ชอบเต้นเกาหลี ชอบอะไรหลายๆอย่าง ร้องเพลง ซึ่งถามว่าสิ่งพวกนี้มีคุณค่าไม๊ ทุกอย่างมันก็มีคุณค่าในตัวของมันเอง แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้กับทุกคน คือแบบ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร สิ่งหนึ่งอยากให้หันมามองอ่าค่ะว่าจริงๆแล้ว นาฏศิลป์ไทยนี่มันเป็นเอกลักษณ์ของไทยเลยนะ เราควรที่จะหันมาสนใจ รักแล้วก็หันมาอนุรักษ์อ่าค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถ้ามองมันก็เริ่มจะสูญหายแล้ว และนาฏศิลป์ไทยเราก็จะเป็นส่วนหนึ่งเลยแหละที่จะให้คงอยู่กับประเทศไทยต่อไป

พี่สมยศ : เอาละครับคุณผู้ชม ถ้าคุณผู้ชมท่านใดนะครับ สนใจที่จะมาเรียนกันที่นี่นะครับ นี่เลยครับสำหรับครูเปิ้ลเลยนะครับ

ครูเปิ้ล : ติดต่อครูเปิ้ลนะคะที่เว็บไซต์นะคะ www.natasinthai.com นะคะ หรือเฟสบุ๊คก็คือ ที่ บ้านนาฏศิลป์ไทย พระราม 2 นะคะ แล้วก็อีกเฟสบุ๊คนึงก็จะเป็น บ้านนาฏศิลป์ไทย หนองแขม นะคะ ทางบ้านนาฏศิลป์ไทยของเรามีสองสาขานะคะ

ก็คือสาขาพระราม 2 นะคะ แล้วก็ เพชรเกษม 81 เราเรียกว่าสาขาหนองแขมนะคะ

น้องเฟรม : เปิดสอนทุกวันไม๊เอ่ย

ครูเปิ้ล : เปิดสอนจริงๆแล้วเราเปิดสอนเสาร์อาทิตย์ค่ะ แต่ว่าคอร์สเดี่ยวอยากจะมาเรียน ได้เลยค่ะ ติดต่อมาได้เลย ติดต่อมาที่เบอร์นะคะ 086-355-5640 นะคะ แล้วก็เราจะมีในเรื่องของผู้เรียนนะคะ ผู้เรียนกับเราจะได้แสดงบนเวทีจริงด้วย มีเวทีรองรับเลยนะคะ แต่ว่าไม่ได้มี

น้องเฟรม : เมื่อสักครู่นี้เห็นหน้าบ้าน ไม่ได้มีแค่รำไทยอย่างเดียวมีอะไรบ้างคะ

ครูเปิ้ล :อ๋อ เราก็จะมีในเรื่องของละครโขน ดนตรีไทย เต้นแจ๊สแดนซ์ด้วย แล้วก็ให้เช่าชุดแต่งหน้าทำผมรำไทยค่ะ หมดเลยนะคะ แล้วก็รับจัดการแสดงนาฏศิลป์ไทยด้วย มีทั้งในประเทศแล้วก็ต่างประเทศนะคะ มีครบวงจรเกี่ยวกับไทยๆเลยคะ

นี่ ครบวงจรเลยสำหรับใครสนใจก็ เรามีร้องเพลงด้วยนะ ใช่ค่ะ เราไม่ได้มีรำไทยอย่างเดียวค่ะ เราก็อิงสากลด้วย แล้วมีเต้นแจ๊สด้วย

น้องเฟรม : ครูปอสอนเองเลยใช่ไม๊แจ๊ส และวันนี้นะคะ รายการของเราต้องหมดเวลาลงแล้วค่ะ เราสองคนและพี่ๆอีกสามคนและน้องๆทั้งหมดนี้ต้องขอลาไปก่อนนะคะ สำหรับสัปดาห์หน้าเราจะไปทำความรู้จักความเป็นไทยในที่ไหน กับรายการที่มากับความเป็นไทยครับ ต้องติดตามทุกวันอาทิตย์สิบโมงเช้าค่ะ ใช่แล้วค่ะวันนี้เราทุกคนต้องขอตัวลาไปก่อน

สวัสดีค่ะ

บ๊ายบาย

ไม่น่าเชื่อนะครับว่าตัวแค่นี้จะมีลีลาที่อ่อนช้อย แล้วก็ท่วงท่าที่งดงามในการรำชุดพรายชุมพลชุดนี้ รำโดยลูกศิษย์ของบ้านนาฏศิลป์ไทย ซี่งเห็นแล้วก็อดที่จะภูมิใจไม่ได้เลยครับ เพราะว่าขนาดตัวเล็กๆขนาดนี้ก็ยังจะตั้งใจอนุรักษ์ความเป็นไทยขนาดนี้เลย แล้วผู้ใหญ่อย่างเราหละครับ มีโอกาสได้ช่วยสืบสานและอนุรักษ์ความเป็นไทยบ้างหรือยัง

แม่และเด็กที่มาเรียน : จริงๆแล้วเป็นความชอบส่วนตัวของตัวเองนะคะ ก็คือตั้งแต่เด็กก็คือชอบแล้วอยากให้ลูกได้มาเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบด้วย

แล้วประจวบกับช่วงนี้เป็นช่วงที่ปิดเทอม

อยากให้ลูกใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ก็เลยส่งมาเรียนทั้งสองคนเลยค่ะ

อยากให้เค้ารู้ว่าวัฒนธรรมไทยเป็นสิ่งที่ดี

คนเราถ้าจะเติบโตได้ต้องเติบโตจากรากที่ดีอ่าค่ะ

ของเราเรามีรากของวัฒนธรรมไทยอยู่

ก็อยากให้เค้าได้เรียนรู้ตรงนี้

ก็เห็นว่ามันเป็นวัฒนธรรมไทยอ่าค่ะ

เป็นเอกลักษณ์ของคนไทย

แล้วก็คิดว่าคนไทยเราก็มีดีค่ะ

แต่ว่าสิ่งที่ดีนี่เราต้องมองให้ออก

พอมองให้ออกแล้วเราก็เกิดความภูมิใจ

ความภูมิใจอันนี้พี่ก็อยากส่งต่อให้ลูกให้หลาน

ได้สืบต่อไปค่ะ

แล้วก็คืดว่าเป็นสิ่งที่มันสามารถที่จะออกสู่สายตาชาวโลกได้

รับสมัครครูเสาร์อาทิตย์